ถึง โอโนะคุง
ช่วงนี้สบายดีมั้ยครับ? นายบอกให้ผมไปดู MASK แต่การเตรียมตัวสอบเข้าม.ปลายมันไม่เป็นใจเลย ขอโทษนะที่ไปไม่ได้
ช่วงนี้ก็ได้แต่คุยกับนายทางโทรศัพท์ แต่ถ้าผมสอบเสร็จเมื่อไหร่ไว้เราไปเที่ยวกันนะ
แต่ว่าน้า โอโนะคุง ผมล่ะอยากให้นายเลิกหลับระหว่างเราคุยโทรศัพท์กันซักที ผมคิดว่านายตัดสายผมไปแล้วซะอีก! (หัวเราะ)
ในเมื่อนายไม่ใช่คนที่โทรมา ก็อย่าหลับในขณะที่คนอื่นเขาลำบากขนาดไหนกว่าจะได้โทรสิ! (หัวเราะ)
Johnny's Jr.
ถึง นิโนะ
ได้อ่านข้อความของเดือนที่แล้วละนะ ผมสบายดี ได้ยินมาว่าเธอผ่านเข้าม.ปลายโดยไม่มีปัญหา แย่หน่อยนะ* (หัวเราะ)
*โอจังใช้คำว่า sannen
ออกไปหาอะไรกินกันบ่อ (สำเนียงคันไซ) อย่างแมคเงี้ย (หัวเราะ) นั่นสิน้า ถึงผมจะไม่ใช่คนที่จะโทรไปหาใครเค้า
แต่ผมน่ะรัก**นิโนะจริงๆน้า แต่ผมมันขี้อายเกินกว่าจะบอกความรู้สึกของผมตรงๆออกไปน่ะ (หัวเราะ)
**โอจังใช้คำว่า aishiteru
มนุษย์ขนมปังคนนั้น ... เค้าชอบผมจริงๆนะ
Nino's Game Nikki 2005.0824
2003 - His hands are so small I love it. It’s so cute I just can’t help it. Precious. (laughs)
ผมชอบมือเล็กๆของเค้า น่ารักจะตาย ช่วยไม่ได้นี่นา เลอค่านะรู้มั้ย (หัวเราะ)
?Nail Check!
ขณะที่รอจัดฉาก ครั้งนี้นิโนะมิยะที่นั่งอยู่ข้างๆโอโนะก็เริ่มที่ตะเช็กความยาวของขอบกางเกงยีนส์
โอโนะ ปล่อยให้เขาเช็ก ก็เริ่มมองนิ้วมือตัวเอง (พูดถึง โอโนะฟรีสไตล์) ที่ดำและสกปรกเพราะปั้นฟิเกอร์ เลยเริ่มที่จะถูมันออก
โอโนะพยายามมากที่จะทำให้มันหายไปจากเล็บแต่มันก็อยู่ติดทนติดนานเหลือเกิน เป็นแบบนี้ นิโนะมิยะเลยบอกว่า
"ปั้นฟิกเกอร์ยังไงก็ทำมือนายสกปรกเนอะ" พอเป็นแบบนั้น โอโนะเลยวางมือไปบนหัวเข่านิโนะมิยะและไม่ทำอะไรทั้งนั้นแล้ว
"อะไร นายจะบอกว่าให้ฉันถูมันออกให้หรือไง?" นิโนะมิยะถาม
โอโนะพยักหน้าเป็นคำตอบ แล้วนิโนะมิยะก็เริ่มกระบวนการบ่นไม่รู้จบพร้อมๆกับที่พยายามถูคราบสกปรกออกแทบเป็นแทบตาย
ตอนที่ออกแรงถูมากไป โอโนะร้องลั่น "เจ็บน้า!" นิโนะก็จะตอบกลับมา "ฉันถูให้แล้วนายก็ทนหน่อยสิ!"
ด้วยน้ำโห นิโนะก็ถูออกได้แค่เพียงหนึ่งนิ้วเท่านั้น
Step and Go- Music Station Report
ใครในอาราชิที่แสดงตัวเหมือนพ่อมากที่สุด ?
โอโนะซัง เพราะวันๆเขาไม่ทำอะไรเลย(หัวเราะ) แต่ตราบใดที่เขายังอยู่ตรงนี้ ก็เพียงพอแล้ว
นิโนะ Tv Life 2012.12
ถ้าตอนป่วย อยากให้เมมเบอร์คนไหนมาดูแล?
นิโนะ เค้าน่าจะทำอาหารให้กิน โดยธรรมชาติแล้วเค้าจะต้องมาอยู่ข้างๆผม
โอโนะ Tv Life 2012.12
ฉันชอบนิโนะ เพราะเขาให้สติ๊กเกอร์ฉัน <3
โอโนะ CANCAM AUGUST2009
หลังจากเลิกงาน ฉันก็กลับบ้านอาบน้ำ แล้วก็เอาแต่คิดถึงคาซึตลออออดเวลาเลยล่ะ
ฉันดูรูปกันสึ แล้วเห็นหน้าคาซึตลออออดเวลาเลย ก็เลยวาดรูปคาซึ
โอโนะ TV Guide [2011.03.19-2011.03.25]
ฉันก็คิดถึงแต่ซาโตชิเหมือนกันนะ แบบ ตอนนี้จะทำอะไรอยู่น้า ก็เลยว่าจะโทรไปหาแต่อย่าดีกว่า
ฉันว่าซาโตชิต้องยุ่งกับการทำอะไรบางอย่างอยู่แน่เลย
นิโนะ TV Guide [2011.03.19-2011.03.25]
ผมชอบเสียงโอโนะซังที่จะทุ้มๆนุ่มๆ เวลากล่าวปิดท้ายรายการมากเลย
นิโนะ fuku arashi 2013
โอโนะซัง .. การมีอยู่ของเขาเป็นสิ่งพิเศษ
เค้าเป็นคนเข้าใจยากนะ เป็นคนที่ดูยาก
เพราะว่ายากแบบนั้น มันเลยไม่ใช่ปัญหา(หาข้ออ้าง)ในการอยากอยู่รอบๆตัวเขาตลอดเวลา
โอโนะซังเหรอครับ ? ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ว่าหมอนั่นน่ะเหมือนเกมล่ะ
นิโนะ 2011 Arashi Scene Tour - Dome
อื้อ ผมเหมือนเกมประเภทหนึ่งอ่ะแหละ ผมทำตัวเองให้เหมือนเกม
โอโนะ 2011 Arashi Scene Tour - Dome
Wink up Message Board
2004/2
ถึง โอโนะคุง
โปรดพยายามกับงานด้วยนะ (ที่เขียนมาเนี่ย)เพราะฉันอ่านวิ้งอัพบอร์ดนี่แล้วนายบอกว่าไม่มีใครเขียนเมสเซจมาหาเลย กับ เขียนมาหาบ้างสิ (หัวเราะ)
2007/7
ถึง โอโนะคุง
สบายดีไหม? เราไม่ค่อยมีโอกาสได้พบหน้ากันเท่าไหร่เลยนะช่วงนี้ นายยังเต็มที่กับงานนายหรือเปล่า?
2007/8
ถึง นิโนะ
สบายดีไหมนะ? ช่วงนี้นายดูหดหู่ไปนะ เป็นเพราะเราไม่ค่อยได้เจอกันนานไปหรือเปล่า?
2007/9
ถึง โอโนะคุง
นายสบายดีนะ? ส่วนฉันสบายดี ไว้เราออกไปเที่ยวกันอีกนะ!
2007/10
ถึง นิโนะ
สบายดีหรือเปล่า? ช่วงนี้ได้รับความช่วยเหลือจากนายหลายๆอย่าง
คิดว่าต่อจากนี้ไปก็จะเป็นอย่างนั้น ฝากด้วยนะ!
ครั้งหน้าก็ไปหาอะไรกินกันเถอะ
2007/11
ถึง โอโนะซัง
สำหรับทัวร์หน้าร้อนได้ขยายเวลาเพิ่มนิดหน่อย
ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะ
แต่ว่า.. ฉันจะไม่ไปกินข้าวกับนายหรอก!
2007/12
ถึง นิโนะ
ฉันอยากกินนายมากกว่ากินข้าวนะ
ถึง จิเนนคุง
ครั้งหน้าเลี้ยงฉันด้วยนะ (หัวเราะ) ขอร้องล่ะ!
2008/01
ถึง โอโนะคุง
ฉันก็อยากกินนายเหมือนกัน
ถึง จิเนนคุง
ฉันอยากจะถามเธอว่าทำไมถึงได้ชอบโอโนะคุงมากขนาดนั้น ในวิ้งอัพนี่ล่ะ
เช่นว่า ทำไมถึงได้ชื่นชมมากแล้วก็พวก ..ทำไมถึงต้องเป็นโอโนะคุง อยากให้เธอตอบฉันมา
2008/02
ถึง นิโนะ
ฉันมาคิดๆดูแล้ว ที่นิโนะบอกว่าอยากกินฉันน่ะ คิดอยู่นานมากก็สรุปได้ว่า ฉันยังไม่พร้อมให้นายกินนะ(หัวเราะ) ขอเวลาอีกหน่อยแล้วกัน
จากจิเน็น ถึงนิโนะมิยะคุง
โอโนะคุง มีพรสวรรค์ทั้งร้องทั้งเต้น แล้วเขาก็เท่มากเลยครับ อ้อ และ ตอนที่ผมดูชูกุไดคุงน่ะ ผมเห็นว่าเค้าดูเฉื่อยชาใช่มั้ยล่ะครับ
ผมชอบช่องว่างระหว่างเขาตรงนั้นแหละครับ และผมกำลังคิดว่า มันคงจะดีมากๆเลยถ้าเค้าจะมาดูคอนเสิร์ตจั๊มป์ด้วย
ถึง โอโนะคุง
จากที่ผมบอกไป กรุณามาดูคอนเสิร์ตของพวกผมด้วยนะครับ รวมถึงเป็นเพื่อนผมด้วยเถอะครับ เราเคยเจอกันบ้าง
แต่หาเวลาคุยแบบปกติไม่ได้เลย ผมอยากจะลองคคุยเรื่องสัพเพเหระ แล้วก็พัฒนาความสัมพันธ์กันและกัน
มันคงดีมากๆเลยครับ ถ้าเราเมลหากันได้ แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้เราเต้นด้วยกันนะครับ!”
2008/03
ถึง โอโนะคุง
ช่วงนี้ มีเด็กพยายามจะมาวอแวไล่ตามซาโตชิ แต่ว่าฉันไม่ยอมแพ้หรอก เพราะฉันมองแต่ซาโตชิมาตลอด
ถึง จิเนนคุง
ฉันไม่แพ้เธอหรอกนะ!
2008/04
ถึง คาซึ
จริงอ่ะ ?
ถึง จิเนนคุง
ฉันก็อยากเป็นเพื่อนกับเธอนะ เป็นเพื่อนทางเมลกันไหม?
2008/05
ถึง ซาโตชิ
…………………………………… อ้อเหรอ
2008/06
ถึง คาซึ
หลังจากที่ลองอยู่หลายครั้ง ฉันก็รู้ว่าทุกครั้งที่ฉันปลีกตัวออกห่างจากนาย ฉันก็เอาแต่คิดถึงนาย
จริงๆ ไม่มีนายนี่ไม่ไหวเลย คาซึ รักนายจัง!
2008/07
ถึง ซาโตชิ
ได้รับรู้อย่างนั้นแล้วฉันก็ดีใจนะ แต่ตอนนี้ฉันอยู่ในระหว่างการท่องเที่ยว ขอโทษที่ทิ้งนายไว้คนเดียวนะ
แต่ระหว่างนั้นฉันจะเมลหานายแทน
2008/08
ถึง นิโนะ
หลังจากเราแลกเปลี่ยนจูบที่ร้อนแรงในฟุคุโอกะ โดม ฉันคิดว่า “นี่แหละ ริมฝีปากของนาย เทียบกับคนอื่นไม่ได้เลย”
2008/09
ถึง รีด้า
น่าเสียดายนะ ยูนิตที่เราสร้างขึ้น ต้องปิดตัวลงในซัปโปโร แต่ว่านะ เราสองคนจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!
2008/10
ถึง คาซึจัง
นั่นสิน้า ......... นั่นสินะ งั้นเรามาตั้งยูนิตใหม่กันมะ "Half & Left" เป็นไง ? ยังจำ "Half & Left" ได้อยู่มั้ย
*Half & Left ยูนิตก่อนที่จะมี Ohmiya Sk ค่ะ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะมาจากหน้าพิซซ่า half&half อะไรนี่แหละ
2008/11
ถึง โอโนะซัง
ไปตกปลาก็ได้นะ ทำตามที่ใจตัวเองต้องการสิ ส่วนเรื่องยูนิตใหม่ มันเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย แต่ว่าท้ายสุดมันก็คือ Ohmiya SK ไม่ใช่เหรอ ?
2008/12
ถึง นิโนะ
นั่นสินะ งั้นเราแยกย้ายกันไปทำงานเดี่ยวกันเถอะ ฉันเองก็จะลองทำงานร่วมกับคนใหม่ๆด้วยเหมือนกัน
2009/01
ถึง รีด้า
ฉันเจอคนที่มีความสามารถชื่อ นิชิกิโดะล่ะ ตอนนี้เราก็กำลังทำงานร่วมกันอยู่
2009/02
ถึง นิชิกิโดะคุง
อย่ามาแย่งคาซึของฉันนะ!
ถึง คาซึ
........บ้ากะ!
2009/03
ถึง โอโนะคุง
นายเองก็พยายามเข้าล่ะกับมารุยาม่าคุงน่ะ
2009/04
ถึง นิโนะ
ฉันชอบมารุก็จริง แต่กับคาซึฉันก็รัก มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ ? บ้ากะ!
ถึง มารุ
ฉันชอบมารุที่หนึ่งเลยล่ะ
2009/05
ถึง ซาโตชิ
ฉันสังเกตว่าล่าสุดมานี่ นายไม่ได้เปลี่ยนทรงผมเลยใช่มั้ย?
2009/06
ถึง คาซึ
งั้นเรามาทำผมทรงเดียวกันดูมั้ย ?
2009/07
ถึง รีด้า
เอางั้นเหรอ ? ถ้าอยากทำ ก็ทำเลย!
2009/08
ถึง นิโนะ
โชคดีกับบุไตนะ
2009/09
ถึง ซาโตชิ
ต้องมาดูคนแรกให้ได้นะ ตกลงมั้ย ?
2009/10
ถึง นิโนะ
ฉันไปดูบุไตนายมาแล้วนะ สนุกมากเลย เกือบจะกระโดดขึ้นไปบนเวทีด้วย
2009/11
ถึง รีด้า
นายก็น่าจะโดดขึ้นมานะ ในเมื่อเป็นนาย(ก็ไหม่เป็นไร) แต่นายก็มาแล้วนี่
ถึงแม้ว่าฉันจะรอให้นายโดดขึ้นมา แต่นายก็ไม่ ผิดหวังอ่ะ ฉันรอแต่ทุกอย่างก็หายไปหมด ผิดหวังจริงๆ
2009/12
ถึง นิโนะ
ฉันคิดจะโดดนะ แต่คุณผู้กำกับนั่งอยู่ตรงนั้น เลยต้องอดทนเอาไว้ ขอโทษนะ
2010/01
ถึง ซาโตชิ
ตลอดเลยนะ ตลออออดเลย ที่เราเขียนถึงแค่เราสองคน และเดือนสุดท้ายนายเอาชื่อฉันไปใส่อยู่ข้างได้ "ถึงคนที่จะกล่าวต่อไปนี้"
นั่นทำให้ฉันเศร้าใจ เราจบกันที่ตรงนี้เหอะ
เก๊าล้อเล่นหรอกน่าาาา รักจะตาย!
2010/02
ถึง นิโนะ
ฉันก็ร้ากกกกกกกกนาย (จริงจัง)
2010/03
ถึง โอโนะซัง
รัก ซาโตชิแบบไหนก็รัก
2010/04
ถึง นิโนะ
รัก รัก รัก รัก ฉันรักนาย
2010/05
ถึง ซาโตชิ
ความสัมพันธ์แบบนี้ เราเลิกเถอะ มันหนักมากจริงๆ
2010/06
ถึงนิโนะ
ทำไมเราไม่เปลี่ยน "หนัก" (omoi/heavy) เป็น "รัก" (omoi/feeling) ล่ะ ?
*โอจังเล่นคำพ้องเสียง
2010/07
ถึง โอโนะคุง
ฉันไม่คิดว่านายจะเปลี่ยนไปเป็นคนประเภทที่เอาแต่พ่นคำหวานแบบชาวอิตาเลี่ยนเลยนะ
พอนายเปลี่ยนไปแบบนี้ สำหรับฉันมันเจ็บปวดจริงๆ
ซาโตชิที่ฉันเคยรู้จักหายไปแล้ว ตอนนี้เขาเป็นเป็นคนอิตาเลี่ยน
2010/08
ถึง คาซึ
ฉันเป็นคนญี่ปุ่นนะ เป็นคนญี่ปุ่น คาซึอ่ะ!
2010/09
ถึง โอโนะคุง
เค้าถูกเรียกว่าโอโนะคุงเหรอ ใช่ไหม? คนนั้นน่ะ?
ผู้ชายญี่ปุ่นคนนั้น
ที่มีชื่อเหมือน โอโนะ ซาโตชิ ต้องเป็นคนญี่ปุ่นแน่ๆ
ทำไม ทำไมนะทำไม
ทำไมคนนั้นต้องแสดงเหมือนเราสนิทสนมกันด้วย?
เป็นคนที่ฉันรู้จักงั้นเหรอ?
ฉันตกใจจริงๆ ที่เขาทำตัวสนิทสนมกับฉันแบบนั้น
2010/10
ถึง คาซึ
เราน่ะ สนิทกันมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเลยล่ะ
2010/11
งั้น .. เราห่างกันสักพักเถอะ ถ้านายจะพูดแบบนั้น
2010/12
ถึง คาซึ
ม่าย! ฉันไม่ยอมห่างจากนายหรอก ไม่ๆๆ เพราะฉันรักนายนะ นายรู้ใช่มั้ย!
2011/01
ถึง ซาโตชิ
ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ ซาโตชิ ... ขอบคุณนะ
ถึง คาซึ
อื้ม เข้าใจละ เรามาเตรียมงานแต่งงานกันเถอะ
2011/08
ถึง ซาโตชิ
งั้น .. ขอคิดดูก่อนละกัน
2011/09
ถึง นิโนะ
ตอบฉันนะ เร็ว เร็วๆเลย เพราะนายไม่ยอมตอบฉันที่จิมุโชซักที ฉันเลยคิดว่านายน่าจะมาตอบที่บอร์ดนี่ ให้คำตอบฉันเร็วๆเลย!
2012/11
ถึง นิโนะ
ราเม็งครั้งก่อนที่ไม่ได้ไปกินด้วยกัน โทษนะ ขอโทษจริงๆนะ
เรื่องที่ขอแต่งงานไปอ่ะ (ครบปีพอดี) ฉันรอมานานแล้วนะ นายจะคิดไปตลอดชีวิตหรือไง
2013/03
ถึง รีด้า
มันก็ต้องขอคิดนานๆอยู่แล้วไม่ใช่หรอ
ก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้น เพราะมันไม่ใช่ปัญหาของเราแค่สองคน
เพราะงั้น ขอเวลาคิดอีกซักพักแล้วกัน
พูดถึง โอมิยะ เอสเค
เราไม่ได้แค่ล้อเล่นไปวันๆนะ เราทำมันเพื่อบันเทิงคนดูด้วยเหมือนกัน แต่เราก็ก้าวข้ามผ่านจุดที่คนจะมองเราแบบนั้นไปแล้ว (ยิ้ม)
นิโนะ FC Pamphlet 2011 Winter
นิโนะมิยะและโอโนะ มีช่วงเวลาที่เป็นโลกของเราสองคนเวลากอดกัน บางทีดูไปก็รู้สึกเหมือนเป็นคู่แต่งงานที่อยู่กินกันมานานแล้ว (หัวเราะ)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนที่โอโนะคุงต้องเดินผ่านนิโนะมิยะคุง
นิโนะมิยะคุงค่อยๆดึงแขนโอโนะคุงมากอดเอาไว้ ขณะที่กอด โอโนะคุงก็ปล่อยให้นิโนะมิยะคุงเล่นตัวเขาตามสบาย
โดยที่ยังอยู่ในอ้อมกอดนิโนะมิยะคุง โอโนะคุงก็เล่นด้วยอยู่สักพัก จนกระทั่งนิโนะมิยะคุงฮัมเพลง movin' on
โอโนะคุงเลยผละตัวเองออก และเริ่มเต้นไปพลางๆกับที่นิโนะมิยะคุงร้อง
ถ้าคิดว่านี่ก็แค่สกินชิป ผิดแล้วล่ะ เหตุการณ์ยังดำเนินต่อไปในขณะที่พักจากการถ่ายแบบ
ขณะทีโอโนะคุงอ่านนิตยสารอยู่ที่โซฟา นิโนะมิยะคุงก็ค่อยๆเขยิบเข้าไปใกล้ที่ของเขาอย่างช้าๆ คุณคงคิดว่าสองคนนี้ต้องเริ่มคุยกันแน่ๆ
แต่เปล่าเลย นิโนะมิยะคุงเลือกที่จะนั่งบนที่เท้าแขนโซฟา มองดูนิตยสารที่โอโนะคุงอ่าน
เป็นบรรยากาศที่รู้สึกผ่อนคลายมาก อยู่เงียบๆลำพังกันสองคนแบบนั้นขณะที่เวลาก็ไหลไปเรื่อยๆ
Onlystar Blog 10 sept 2010
ตอนที่นิโนะไปถ่ายหนังที่ฮอลลิวูด ผู้จัดการของโอจังและนิโนะกลับคุยกันอยู่แล้วก็บอก รีด้าอยู่ข้างๆ นิโนะเลยขอคุยสาย
โอจังบอกว่า "ให้รีบๆกลับมาได้แล้ว!"
นิโนะบอก "เออน่า ก็จะกลับพรุ่งนี้แล้วเนี่ย! (หัวเราะ)"
เอาจริงๆนะ หมอนี่น่ะ ทัชชิ่งแมนเลยล่ะ
เค้าชอบมาจับก้นผม
ตอนที่เราอยู่ในห้องพัก แน่ๆล่ะ.. ยังไงนิโนะก็ต้องมาอยู่ข้างๆผม
แล้วก็จับก้นผมตลอดเลย เป็นแบบนี้มานานมากแล้ว แต่หลังๆชักจะหนักหน่วงไปหน่อย
ตลอดเวลาเลยอ่ะ แบบ เสียนิสัย มือชอบมาวางไว้บนก้นผม
ผมก็บอกว่า อย่าทำนะ ในตอนแรก แต่หลังๆก็ เอ้อ ช่างมันเหอะ
ถ้ามีโอกาสผมก็จับคืนบ้าง แต่นิโนะก็จะปัดมือออกแล้วก็โมโหบอกผมว่า หยุดนะ!!
ผมเลยถาม ทำไมอ้ะ ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าจับแต่ก้นผมตลอดเลย
Ohno - hanamaru cafe 2007.04.02
ให้ตายเถอะ ตลอด15ปีฉันไม่เคยได้ของขวัญ แต่นายกลับให้โทรศัพท์กับคนแปลกหน้า
นิโนะ Arashi no Waku Waku Gakkou (26 June 2011, 5:00PM)
มีคนถามนิโนะว่าชอบใครในอาราชิที่สุด
นิโนะตอบว่า "ก็ชอบทุกคนนั่นแหละ แต่โอโนะคุงพิเศษที่สุด"
(Waku Waku Arashi School Event, 24.06.2011)
โอจัง "เอ่อ .. นิเน๊้ยวมิยะคุง"
นิโนะ "ใครเหรอ?"
โอจัง "นายนั่นแหละ .. เอ้อ ตั้งกะเดบิวต์มา ฉันได้รับสกินชิปอยู่เสมอ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เปลี่ยนไปเลยเนอะ
ทั้งพยายามจะจับก้น พยายามจะกุมมือ
เอาจริงๆเลยนะ จริงๆก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกรำคาญเหมือนกัน
ทว่านายก็ดึงดันจับอยู่อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ก็ยังเป็น
แต่ว่านะ กลับมาคิดทบทวนดีๆอีกครั้ง สกินชิปพวกนั้น ถ้าบางวันที่เราไม่ได้ทำมันฉันจะรู้สึกอ้างว้างมากๆ
ล่าสุดก็คิดแบบนี้จริงๆ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ก็ฝากสกินชิปกับฉันแบบไม่รู้จบด้วยนะ"
ไอบะ "โอโนะซัง นายเป็นคนบอกไม่ให้ล้อเล่นแต่นายกลับเป็นคนเดียวที่ล้อเล่นนะรู้มั้ย"
โอจัง "อันนี้ฉันพูดออกมาจากใจจริงนะ"
ไอบะ "จริงเหรอ?"
โอจัง "จริงสิ"
ไอบะ " กำลังบอกกลายๆว่า อยากถูกสกินชิปจังเลยน้า ใช่มั้ย"
จุน "ทั้งหมดนี่เป็นคำขอบคุณที่จำก้นมาตลอด?"
โอจัง "มาคิดดู "เอ๊ วันนี้จับน้อยจัง" ก็มี
จุน "โอโนะซัง นี่ตกหลุมรักนิโนะมิยะซังจริงๆเข้าแล้วใช่มั้ย! (หัวเราะ)"
โอโนะ 6/25/2011?11:00??Arashi no Waku Waku Gakkou
ถึง โอโนะซัง
โอโนะซังน่ะ ถ้านับสมัยจูเนียร์ด้วย เราก็คบกันมาใกล้จะ 15 ปีแล้วนะ 12 ใน 15 ปีที่เป็นอาราชิตั้งแต่เดบิวต์
ไม่มีซักครั้งที่ชวนไปกินข้าวแล้วนายจะไปด้วยกัน ไม่มีเลยซักครั้ง
แต่ก็มีอยู่วันนึงนะ กับเจน่ะ สามคนเรา อ่า ถึงแม้ว่าฉันจะตามไปทีหลังก็เถอะ
เรามีเรื่องคุยกันเยอะแยะ เรื่องสนุกเฮฮา อนาคตของเรา งานของเรา ความเป็นไปของเราช่วงนี้
คุยกันหลายอย่างเลยเนอะ
แล้ววันต่อมา เราก็ออกไปกินข้าวกันอีก สำหรับฉันแล้ว นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาเลยจริงๆที่ได้ไปกินข้าวกับนายสองต่อสองสองวันติดกัน
แต่ตอนที่เราอยู่กันตามลำพัง นายกับฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกันเท่าไหร่
ฉันเลยกลับมาคิดที่บ้าน
มันคงเป็นเพราะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างสิ่งที่ฉันอยากบอกอยากคุยฉันได้เล่าให้นายฟังไปหมดแล้วล่ะมั้งนะ
งาน .. เรื่องราวระหว่างนั้นในสถานที่ที่แตกต่างกันไป
นายกับฉัน.. ทุกเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากจะเล่า เราได้เล่าให้กันฟังไปหมดแล้ว
แล้วฉันก็รู้ว่า การที่มีนายอยู่ข้างๆมันสำคัญมากจริงๆ
คนที่พร้อมจะรับฟังและพูดคุยทุกอย่างด้วยน่ะเป็นไม่ยาก แต่ทว่ากว่าจะหาคนคนนั้นเจอนั้นมันยากมากเหลือเกิน
แล้วก็ .. การที่เราออกไปกินข้าวด้วยโดยที่เราไม่พูดคุยอะไรกัน ..นั่นน่ะเป็นสิ่งที่มีค่าและมีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว
จนถึงตอนนี้ฉันยังจำช่วงเวลานั้นได้ดี
การได้ไปกินข้าวกับนายอีกครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะต้องใช้เวลาถึง 12 ปีอีกก็ตาม
ถ้าเราได้ไปกันอีกครั้ง มากินข้าวโดยที่เราไม่ต้องพูดคุยกันเถอะ
ซาโตปี้ ขอบคุณนะ
2011 Beautiful World - Waku Waku gakkou