just one girl who is arashi-addicted. has many fandoms,but now stick with these five seem like she isn't able giving up.
25570928
แปล [49] : "อยากรัก..?" More 2014/11 : Ninomiya
More It
2014/11
ครั้งที่ 71
"อยากรัก?"
มันไม่ใช่เรื่องที่ดีหรือแย่อะไรหรอก แค่มีเรื่องที่ไม่เข้าใจเต็มไปหมดแค่นั้นเอง
ผู้หญิงน่ะ ... เรียกร้องกับคำพูดมากเกินไป ใช้คำพูดกับพร่ำเพรื่อมากเกินไปล่ะมั้ง
อย่างว่านะ ผู้หญิงที่ชอบเหลือเกินกับการอยากให้พูดว่า "รักนะ" เยอะแยะไปหมด
ตัวผมเองคิดว่า ถ้าถูกอ้อนให้พูด ก็จะพูดนั่นแหละ
แต่ว่า คำว่า"รักนะ" ในตัวของผมเองผมไม่คิดว่ามันจะมีความหมายอะไรขนาดนั้น
อย่างคู่แต่งงานอเมริกันที่พูดว่า "I love you" ทุกวัน แล้วก็แสดงความรักกัน
แต่ที่ญี่ปุ่นน่ะแต่ให้พูดเท่าไหร่ อัตราหย่าร้างก็สูงอยู่ดี
ต่อให้พูดหรื่องรักๆกันเท่าไหร่ แสดงออกกันเท่าไหร่ ก็ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ดีๆจะยืดยาวน่ะนะ
ตอนที่ทะเลาะกัน แล้วผู้หญิงตะโกนออกไปว่า "ถ้าไม่พอใจอะไรกันก็พูดสิ!"
แล้วถ้าพูดความจริงออกไปละก็ สถานการณ์มันกลับออกมาแย่สุดๆไปเลย (ฮา)
บางที ก็ไม่ได้อยากฟังความกันหรอกจริงมั้ยล่ะ?
ทำไมผู้หญิงน่ะ ถึงเรียกร้อง เรื่องที่ทำให้พวกหล่อนใจเต้นมากกว่าความมั่นคงกันนะ
เพราะคำพูดของผู้หญิง ย้อนแย้งในตัวเองสูง
ยกตัวอย่างนะ ผู้หญิงเป็นคนตั้งแง่เองว่า "ผู้ชายน่ะมักมาก" แต่คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือตัวผู้หญิงเองนะ เบื้องหลังของคำพูดนี้น่ะคล้ายๆจะหมายความได้ว่า "ถ้าถูกนอกใจละก็ มันก็ช่วยไม่ได้นี่ ยังมีหนุ่มๆคนอื่นอยู่นี่.." พวกเธอน่ะให้กำลังใจตัวเอง แต่ก็กำลังทำร้ายตัวเองอยู่เหมือนกัน อ่า ..แต่สำหรับผู้ชายเอง ก็มีช่วงเวลาที่คิดว่ามีผู้ชายมักมากอยู่เหมือนกัน (ฮา)
งั้นแล้วจะมีวิธีรับมือกับ "ผู้ชายนอกใจ" ยังไงดี?
เรื่องนั้นก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน (ฮา) ถึงจะไม่ค่อยรู้อะนะ แต่บางทีคงดีกว่าถ้าจะบอกว่า "อยากนอกใจก็ได้ ตราบใดที่จับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร" ผู้ชายน่ะ ถ้าถูกบอกว่า "อย่า"ก็มักทำตรงข้ามเสมอ แต่ในทางกลับ ถ้าถูกบอกว่า "เชิญเลย ทำสิ" ละก็ คงไม่มีผู้ชายคนไหนทำต่อหรอก แล้วพอมาคิดแบบนั้น "ถ้านอกใจละก็ จบกันทันที" น่ะ เป็นคำพูดที่ NG เลยนะ เพราะอะไรน่ะเหรอ ปุบปับก็พูดว่า "เลิก" น่ะเป็นบทลงโทษที่ติดลบมาก มากจนทำให้อยากหนีกันไปเลยจริงไหม?
"ถ้าจับไม่ได้ก็ไม่นับ" ถ้าพูดในแง่บวกแบบนั้น ก็รู้สึกว่าทำให้อยากกลับไปหาแฟนมากกว่า
แต่ถ้า ถ้ามีความหวังว่าไม่อยากถูกผู้ชายนอกใจจริงๆละก็นะ อย่างแรกเลยก็อย่าไปแต่งงงาน
ด้วยทฤษฎีนี้ การนอกใจในสมัยที่เป็นคนรักน่ะ บทลงโทษจริงจังมันทำไม่ได้น่ะนะ (หมายถึงไม่มีสิทธิ์ขาดในตัวน่ะ)
ทุกวันนี้ มีผู้หญิงที่ออกไปทำงานนอกบ้านเยอะขึ้น ความต้องการเองก็เพิ่มขึ้น โอกาสได้พบอะไรมากมายก็เพิ่มขึ้นใช่ไหมล่ะ สมมติว่า ถ้าแฟนหรือเมียผมเป้นฝ่ายนอกใจละก็ ผมเองน่ะเป็นพวกที่ "ถ้าจับไม่ได้ก็ไม่นับ" น่ะนะ (ฮา) แต่ว่า ถ้าถูกอีกฝ่ายนอกใจละก็จะรู้สึกยังไงนะ ?
จนกว่าความมั่นคงและความสบายใจของคนสองคนจะพังทลายลง ถ้าอยากจะนอกใจละก็ไม่ห้ามหรอกนะ แต่ว่าความหมายของการเคยใช้ชีวิตร่วมกันมันก็จะหายไป
ผู้หญิงน่ะ ไม่ว่าจะโสดหรือแต่งงาน ก็อยากจะรัก อยากจะรักตลอดไปน่ะนะ
นั่นน่ะ เป็นอะไรที่ไม่เข้าใจ ความรักน่ะมันไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่ไปอย่างยืดยาวซักหน่อย
"ถึงจะอยากแต่งงาน แต่ก็อยากจะมีความรักอยู่ตลอด" บ้างล่ะ
แต่ก็ยัง "รักผู้ชายคนอื่นเข้าให้แล้ว จะเลิกกับสามีมั้ย" นั่นน่ะ ทำให้ความหมายของการแต่งงานผิดไปนะ
การแต่งงานน่ะ มันไม่ใช่เรื่องของฝ่ายเดียวแล้วนะ มันเป็นเรื่องของในครอบครัวไม่ใช่เหรอ?
ผู้หญิงที่เอาแต่เรียกร้องหารัก แท้จริงแล้วมันคือความรักหรือเปล่านะ?
ถ้าคิดว่าความชอบคือความรัก?
ถ้ารู้สึกหวั่นไหวกับผู้ชายเท่ๆคือความรัก?
นั่นน่ะ สำหรับผมแล้ว มันไม่นับเป็นความรักหรอกนะ
ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ผมคิดว่า การเริ่มต้นนั่นแหละคือความรัก
แต่ว่า ความรักน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่ยั่งยืนยาวหรอกนะ เพราะความสัมพันธุ์เป็นสิ่งที่จะเริ่มเปลี่ยนไปนั่นแหละ ผมน่ะไม่อยากให้หนีจากความจริงตรงนั้นหรอก
เพราะงั้นนะ สมมติว่าถ้าผมเป็นผู้หญิงล่ะก็ "อยากจะรักตลอดไป" น่ะ ไม่พูดแน่ๆ
ไม่คิดด้วยว่า ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็อยากจะรักตลอดไป
แต่งงานไปมีแต่ความมั่นคงเท่านั้นที่สำคัญ
แต่ว่า เรื่องของผู้หญิงๆน่ะ ไม่ต้องเข้าใจอะไรให้มากนั่นแหละดีแล้ว
คิดเองเออเองเอาครึ่งๆกลางๆ ก็พาลแย่ เดี๋ยวกลายเป็นความหมายของการอยู่ร่วมกันมันหายไปซะเปล่าๆ (ฮา)
ผิดโปรดบอก
นิโนะมิยะนี่มันนิโนะมิยะจริงๆ
ป้ายกำกับ:
translate
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เรื่องของผู้หญิงๆน่ะ ไม่ต้องเข้าใจอะไรให้มากนั่นแหละดีแล้ว <<<< ฮา พูดอีกก็ถูกอีก ขนาดผู้หญิงด้วยกันเอง บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ตอบลบขอบคุณสำหรับแปลนะคะ